Updated: Nov 9, 2020

        เมื่อวันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม 2553 คาดว่าหลายๆ ท่านคงได้ยินข่าวการเปิดตัวใบรับรองมาตราฐานเทคโนโลยีตัวใหม่ที่มีชื่อว่า WIFI Direct จากกลุ่มพันธมิตรไว-ไฟ (WiFi Alliance) แหมหลายท่านอาจจะสงสัยแล้วไอ้เจ้า WiFi Alliance นี้มันคืออะไรถ้าอย่างนั้นผมจะได้อธิบายคร่าวๆ แล้วกันนะครับถ้าใครอยากรู้เพิ่มเติมมากกว่านี้ก็สามารถเข้าไปอ่านได้ที่เว็บไซต์ http://www.wi-fi.org/organization.php

       องค์กรที่มีชื่อว่า WiFi Alliance ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1999 เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของอุปกรณ์เครือข่ายไร้สายโดยที่มีทีมวิจัยต่างๆ มากมาย เช่น Cisco , Dell ,Intel , Nokia, Microsoft เป็นต้น เข้ามาร่วมกันทำการทดสอบการเข้ากันได้ของอุปกรณ์เครือข่ายไร้สายต่างๆ ว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่เพราะเป็นคนละยี่ห้อกันและต่างรุ่นกัน หลังจากที่ทำการทดสอบผลิตภัณฑ์หรืออุปกรณ์ต่างๆ เสร็จแล้วว่าสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ทาง WiFi Alliance ก็จะออกเครื่องหมาย “Wi-Fi Certified ”ดังรูปที่1ให้เพื่อเป็นการรับรองตามที่ถูกกำหนดไว้ในมาตราฐาน IEEE

ภาพที่ 1 เครื่องหมาย “ Wi-Fi Certified ”

          ก่อนที่จะเข้าใจว่ามาตราฐานเทคโนโลยี WIFI Direct นั้นคืออะไรผมขออธิบายการเชื่อมโยงของระบบเครือข่ายไร้สายไวร์เลสแลนก่อนว่ามันเป็นยังไง ท่านที่รู้แล้วก็อย่าพึ่งรำคาญนะครับเพื่อคนที่เขาไม่รู้บ้างถ้าใครรู้แล้วก็สามารถข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย เริ่มเลยแล้วกันครับการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายไร้สายนั้นมีการเชื่อมต่ออยู่ 2 แบบด้วยกันคือ

1. เชื่อมโยงแบบ Infrastructure หรือ Client/Server ซึ่งจะมีอุปรณ์ตัวกลาง1ตัวที่เราเรียกกันว่า Access Point ทำหน้าเหมือนเป็นสะพานในการเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกันทำให้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์,พรินเตอร์,เซิร์ฟเวอร์ สามารถติดต่อสื่อสารกันได้มากกว่า 1 ต่อ 1 ดังภาพที่ 2

ภาพที่ 2 การเชื่อมโยงแบบ Infrastructure

2. เชื่อมโยงแบบ Ad-hoc หรือ Perr to Peer เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไปที่รองรับการใช้งานเครือข่ายไร้สายเข้าด้วยกันการแบบ1ต่อ1เท่านั้น เพื่อที่จะใช้ในการส่งข้อมูลโดยที่ไม่ผ่านอุปกรณ์ตัวกลางหรือที่เราเรียกว่า Access Point ดังภาพที่ 3

ภาพที่ 3 การเชื่อมต่อแบบ Ad-hoc

          มาตราฐานเทคโนโลยี WIFI Direct จะทำงานคล้ายกับการเชื่อมโยงเครือข่ายไร้สายแบบ Ad-hoc แบบเดิมๆ เพราะสามารถสร้างเครือข่ายส่วนตัวขึ้นมาเองเพื่อที่จะทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครือข่ายไร้สายต่างๆ เหมือนกับเครือข่ายไร้สายบลูทูธ ( Bluetooth ) ที่เราใช้งานกันบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น พีดีเอ , โทรศัพท์มือถือ , โน๊ตบุ๊ค เป็นต้น แต่ด้วยข้อจำกัดของเครือข่ายไร้สายแบบบลูทูธ 

          ( Bluetooth ) ในเรื่องของการส่งข้อมูลในความเร็วแค่ 3 เมกะบิตต่อวินาทีและระยะทางในการส่งข้อมูลแค่ 10 เมตร ทำให้การใช้งานส่วนใหญ่จะเป็นการเชื่อมต่อระหว่างหูฟังไร้สายกับมือถือหรือจะใช้ในการต่ออินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์ไร้สาย เช่น มือถือกับโน๊ตบุ๊ค, พีดีเอกับมือถือ เป้นต้น ซึ่งข้อจำกัดเหล่านี้จะถูกกำจัดโดยมาตราฐานเทคโนโลยี WIFI Direct ที่มีการแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ของเครือข่ายไร้สายแบบบลูทูธ ( Bluetooth ) ต่างๆ ดังนี้

1. ความเร็วในการส่งข้อมูลได้ 54 เมกะบิตต่อวินาที

2. ระยะทางในการส่งข้อมูลอยู่ที่ 100 เมตร

3. สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้แบบ Ad-hoc หรือ หรือ Perr to Peer ได้มากว่า 1 ต่อ 1 หรือแบบ Infrastructureโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางในการเชื่อมโยงหรือ Access Point

4. ความปลอดภัยที่มีการเข้ารหัสแบบ WPA2

          สรุปแล้วการมาของ Wi-Fi Direct นั้นจะมาเพื่อทดแทนเครือข่ายไร้สายแบบบลูทูธ ( Bluetooth ) เพื่อที่จะรองรับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นทำให้เกิดการแบ่งปันข้อมูลต่างๆ ระหว่างเพื่อนและครอบครัว ทั้งข้อมูลขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ภาพถ่ายความละเอียดสูงหรือวิดีโอไฮเดฟจากกล้องดิจิตอลรวมไปถึงเครื่องพีซีในบ้านหรือทีวีในบ้าน

          ในเบื้องต้นรายงานระบุว่าคนที่ซื้ออุปกรณ์เครือข่ายไร้สายร่วมไปถึงโน๊ตบุ๊คในช่วงปลายปีนี้จะสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Wi-Fi Direct ได้เพราะได้มีกลุ่มสายการผลิดต่างๆ ที่ตอบรับกลับมาแล้วได้แก่ Intel, Brodcom , Atheros เป็นต้น ซึ่งเป็นเจ้าใหญ่ในวงการทั้งนั้นในเรื่องของการผลิดอุปกรณ์อเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวกับอุปกรณ์เครือข่ายไร้สายไวร์เลสแลน ทำให้เรามั่นใจได้ว่าในอนาคตอันใกล้นี้การเชื่อมต่อบนอุปกรณ์เครือข่ายไร้สายไวร์เลสแลนจะต้องรวดเร็วทันใจวัยรุ่นอย่างแน่นอน

อ้างอิง :: http://www.manager.co.th/cyberbiz/viewNews.aspx?newsid=9530000151155

อ้างอิง :: http://www.wifidirect.co.za/

อ้างอิง :: http://www.wi-fi.org/Wi-Fi_Direct.php